วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2554

เสน่เจ้าหลังอาน


เสน่ห์ของสุนัขไทยหลังอานคือความโดดเด่นของขนที่ขึ้นย้อนแนวทอดจากท้ายขึ้นไปตามแนวเส้นหลัง มีรูปทรงต่างๆ มีสุนัขเพียง 2 สายพันธุ์ในโลกนี้เท่านั้นที่มีลักษณะขนย้อน ( Ridge) ก็คือ Thai Ridgeback Dog (สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน) และ Rhodesian Ridgeback (สุนัขพันธุ์โรดิเชี่ยน

ไทยหลังอาน ยอดพรานสี่ขา 

ย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน สมัยนั้นชาวบ้านนิยมออกหาอาหารโดยการเข้าป่าล่าสัตว์ และมักนำสุนัขติดตามไปช่วยไล่ล่าสัตว์ป่าด้วย สุนัขไทยหลังอานเป็นสุนัขที่ชาวบ้านนิยมเลี้ยงไว้ช่วยล่าสัตว์เพราะมันสามารถวิ่งได้รวดเร็ว เนื่องจากมีช่วงลำตัวล่ำสันแข็งแรง ปั้นขาเต็มไปด้วยมัดกล้าม อกลึก เอวคอด จึงถูกจัดเป็นสุนัขล่าเนื้อพันธุ์หนึ่ง แต่บางครั้งก็อาจได้ยินคนเรียกสุนัขพันธุ์นี้ว่า “ หมาตามเกวียน ” ตามลักษณะที่วิ่งตามเกวียนนายขณะที่นายเดินทางเข้าป่า

ทำไมถึงเรียกว่าหลังอาน 

สาเหตุที่เรียกว่าหลังอานก็เพราะว่าขนบนหลังขึ้นย้อนกลับ โดยมากเริ่มต้นที่ริมกระดูดสันหลังใต้ไหล่ทั้งสองลงไปเล็กน้อย จนถึงบริเวณกลางหลังหรือสะโพก มีรูปร่างแตกต่างกัน ซึ่งมองภาพรวมแล้วมีลักษณะคล้ายอานม้าหรืออานรถ (คำว่าอานในพจนานุกรมฯ มีความหมายว่าที่รองนั่งบนหลังสัตว์หรือหลังยานพาหนะ) เราจึงเรียกขนที่ย้อนบนหลังนี้ว่าหลังอาน บนอานอาจประกอบไปด้วยขวัญมากน้อยไม่กำหนดบางตัวอาจมีถึง 9 ขวัญก็มีหรือ ไม่มีขวัญก็ได้ แต่อานที่สวยจะต้องมีรูปร่างและขวัญทั้งสองด้านสมดุลกัน นอกจากหลังอานแล้วส่วนอื่น ๆ เช่น รูปร่างและสีจะเหมือนกับสุนัขไทยทั่ว ๆ ไป แต่สีที่ได้จดทะเบียนในมาตรฐานพันธุ์กำหนดไว้ 4 สี คือ สีแดง สีดำ สีสวาด และสีกลีบบัว

   
      

ชื่อที่ใช้เรียกอานก็จะเรียกตามรูปร่างหรือลักษณะ บางท้องถิ่นหรือบางกลุ่มอานชนิดเดียวกันอาจจะเรียกชื่อไม่เหมือนกัน แต่อาจแบ่งได้เป็นกลุ่ม ๆ ดังนี้ 


1. อานลูกศร คืออานที่มีรูปร่างคล้ายลูกธนูหรือลูกศรมีขวัญ 2 ขวัญบริเวณหัวอานตรงหัวไหล่ ด้านปลายอานจะมีลักษณะเรียวแหลมจรดกลางหลังหรือสะโพก แต่ถ้าอานชนิดเดียวกันแต่ไม่มีหัวอานจะเรียกว่าอานเข็มหรืออานเทพพนมแล้วแต่ลักษณะของขน 

2. อานแผ่น เป็นอานข้อนข้างใหญ่อยู่บนแผ่นหลัง อาจมีขวัญหรือไม่มีขวัญก็ได้ จะมีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไป ก็จะเรียกชื่อตามลักษณะของสิ่งนั้น เช่น อานพิณ อานไวโอลิน อานใบโพธิ์ อานโบว์ลิ่ง อานม้า อานกีต้าร์ ฯ


3. อานตกข้าง เป็นอานที่มีรูปร่างคล้ายอานแผ่นแต่ขนาดใหญ่มากกว่า ตรงขอบอานจะตกมาจนถึงข้างลำตัว อานชนิดนี้ในยุคหนึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในมาตรฐานสายพันธุ์ที่รับรองโดยสมาพันธ์สุนัขโลก (FCI) กำหนดไว้ว่าอานจะต้องอยู่บนขอบลำตัวเท่านั้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น